วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เฟิร์นเขากวาง

เฟิร์นเขากวาง


       ชื่อวิทยาศาสตร์: Polypodium polycarpon.
      เป็นเฟินที่มีเหง้าเลื้อย มีขนปกคลุมแน่น ใบสีเขียว ค่อนข้างแข็งรูปขอบขนาน ตอนปลายแตกเป็นแฉกคล้ายเขากวาง ใบยาวประมาณ 40-120 ซม. เส้นกลางใบนูนเด่นชัด ไร้ดอก ขยายพันธุ์โดยการเพาะสปอร์  คือ เริ่มจากการเก็บสปอร์ใต้ใบเฟิน โดยเลือกจากกลุ่มอับสปอร์ที่มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม ซึ่งแสดงว่าสปอร์มีความแก่เต็มที่ ใช้มีดตัด ใบเฟินในส่วนที่มีสปอร์เก็บไว้ในซองกระดาษที่ไม่ทำให้สปอร์ขนาดเล็กฟุ้งกระจาย จากนั้นเก็บไว้ใน บริเวณที่ร่มและแห้ง ภายใน 1-2 วัน สปอร์ก็จะแตกและปล่อยให้สปอร์ขนาดเล็กหลุดออกจากอับสปอร์ และตกอยู่ในซองกระดาษ เมื่ออับสปอร์แตกออกหมดแล้ว ใช้คีมขนาดเล็กคัดเอาอับสปอร์ ส่วนของใบ หรือสิ่งต่าง ๆ ออกจากสปอร์ แล้วเก็บสปอร์ทั้งหมดเตรียมเพาะต่อไป ชอบดินที่มีความร่วนพอเหมาะ  เฟินต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสม กลางวันอยู่ในช่วง 19-27 องศาเซลเซียส  และอุณหภูมิกลางคืนลดลงต่ำกว่าอุณหภูมิกลางวันประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส   แสงสว่างประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์  ความชื้นในอากาศประมาณ 60-80 เปอร์เซ็นต์  เมื่อเตรียมต้นเฟิน กระถางและดิน สูตรดินผสมสำหรับ ปลูกเฟิน   ดินตะกอนหรือดินร่วน  1 ส่วน  ทรายหยาบ 1 ส่วน  อินทรีย์วัตถุ (ปุ๋ยคอก+ปุ๋ยหมัก)  4 ส่วน  เรียบร้อยแล้ว ให้นำเศษกระถางแตกคว่ำที่รูก้นกระถาง  แล้วโรยทรายหยาบรองพื้น ใส่ดินปลูก ให้มากพอ แล้วนำต้นเฟินลงปลูก  เติมดินให้เต็มโดยให้ระดับผิวดินอยู่ต่ำกว่าขอบกระถาง 1 นิ้ว และ อยู่ระดับเดียวกับโคนกอหรือโคนต้นของเฟิน  กดดินให้แน่น จากนั้นลดน้ำให้ชุ่ม มีโรคแมลงและศัตรูธรรมชาติ ิเหมือนกับโรคแมลงและศัตรูธรรมชาติของกระแตไต่ไม้ การเจริญเติบโตหลังจากการพักตัวในฤดูแล้ง  


ข้าหลวงหลังลาย

ข้าหลวงหลังลาย


    ชื่อวิทยาศาสตร์: Asplenium nidus L.
    เฟิร์นชนิดนี้ ฝรั่งเรียกว่า “Bird’s nest fern” ชอบอาศัยอยู่ตามคาคบไม้ใหญ่ในเขตอบอุ่นที่มีความชื้นสูง ถือว่าเป็นลักษณะของกาฝาก ใบของเฟิร์นข้าหลวง จะมีสีเขียวอ่อน ขอบใบหยักเป็นคลื่น0 ก้านใบจะมีสีน้ำตาลเข้ม การเรียงตัวของใบจะเรียงตัวแบบเกลียวคล้ายดอกกุหลาบ ใบที่เกิดใหม่จะอ่อนและเปราะหักได้ง่ายแต่พอเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีความเหนียวและหนามาก เมื่อนำมาปลูกภายในอาคารบ้านเรือนจะต้องคอยทำความสะอาดเช็ดถูสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองออกจากใบบ้าง เดือนละครั้งก็ยังดี เฟิร์นข้าหลวงเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงถ้าอากาศแห้งแล้งควรฉีดสเปรย์ให้ใบของมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพราะการฉีดละอองน้ำจะทำให้ใบของมันสดชื่นอยู่ตลอด
     เป็นลักษณะของกาฝากใบของเฟิร์นข้าหลวง จะมีสีเขียวอ่อน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ก้านใบจะมีสีน้ำตาลเข้ม
     การเรียงตัวของใบจะเรียงตัวแบบเกลียวคล้ายดอกกุหลาบ ใบที่เกิดใหม่จะอ่อนและเปราะหักได้ง่ายแต่พอเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีความเหนียวและหนามาก 

 

ว่านลูกไก่

ว่านลูกไก่ทอง


     ว่านลูกไก่ทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Cibotium barometz (L.) J.Smith. จัดอยู่ในวงศ์ DICKSONIACEAE
     ต้นว่านลูกไก่ทอง จัดเป็นพรรณไม้จำพวกเฟิร์น ลำต้นมีความสูงได้ประมาณ 2.5-3 เมตร เหง้ามีเนื้อแข็งคล้ายไม้ ปกคลุมไปด้วยขนนิ่มยาวสีเหลืองทองวาว เหมือนขนอ่อนของลูกไก่ มีใบจำนวนมากออกมารอบๆ เหง้า ลักษณะคล้ายมุงกุฎ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ ชอบดินเปรี้ยว ความชื้นสูง ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดรำไร มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศจีน อินเดีย และมาเลเซีย ในประเทศไทยพบได้มากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมักพบขึ้นเองตามหุบเขา เชิงเขา และตามที่ชื้นแฉะ ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800-1,500 เมตร



เฟิร์นบอสตัน


    เฟิร์นบอสตัน



ชื่อวิทยาศาสตร์  : Nephrolepis exaltata
     เป็นเฟิร์นขนาดเล็ก สูง 0.3-0.6 ม. ทรงพุ่มกว้าง 0.3-0.8ม. ต้นจะแตกกอใบแน่น แผ่ปรกคลุมดินจนแทบมองไม่เห็นลำต้น ใบมีลักษณะคล้ายก้างปลา  เฟิร์นก้างปลาถึงจะเป็นไม้ที่ชอบอากาศชื้นเย็น แต่ก็ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ไม่ชอบน้ำขัง หรือดินเหนียวเพราะรากเป็นระบบรากตื้นมีขนาดเล็ก หากินอยู่ตามผิวดิน ถ้าเนื้อดินเหนียวไม่ร่วนซุยจะทำให้รากชอนไชไปหาอาหารไม่ได้ อาจจะผสมเอาวัสดุปลูกอื่นเข้าไปด้วยเช่น กาบมะพร้าว เศษอิฐหัก ใบไม้ผุ ซึ่งเป็นวัสดุที่ดูดซับความชื้นเอาไว้ได้ดี ถ้าปลูกในที่ที่มีแสงสว่าง สีใบจะเป็นสีเขียวอ่อนๆ แต่ก่อก็จะไม่งามมากนัก แต่ถ้าปลูกในร่มเลยใบจะเขียวเข้ม ให้ใบดกปรกคลุมเป็นพุ่มห้อยย้อยเมื่อจับใส่กระถางแขวน
     เฟิร์นบอสตัน เป็นต้นไม้ที่หลายคนตั้งใจปลูกไว้ในบ้าน เพราะเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีคุณสมบัติดูดสารพิษ (แอบสงสัยเล็กน้อยว่าจะดูดได้มากน้อยเพียงใด) เป็นอีกต้นที่ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย โตเร็ว แตกกอเร็ว